ไอออนมิลล์ คนรักเหล็ก เพจของมิลล์คอน สตีล บริษัทก่อตั้งโดยคุณสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเหล็กเบื้องต้น ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบโครงสร้างบ้านหลังน้ำท่วมให้ทุกคนได้ทราบกัน
บ้านโครงสร้างไม้
เป็นบ้านที่มีความแข็งแรงน้อยกว่าโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยสามารถต้านแรงดันน้ำได้ 2 เมตร ยกเว้นอาคารนั้นก่อสร้างแบบไม่ได้มาตรฐาน เช่นเสามีเหล็กเสริมน้อยไป ก็จะทำให้โครงสร้างเกิดปัญหาหลังโดนน้ำได้
ผนังและพื้นของบ้าน
โครงสร้างจมอยู่ในน้ำจะ สิ่งที่จะเกิดความเสียหายมากที่สุดคือผนัง และพื้นชั้นล่างของบ้าน โดยให้นึกภาพน้ำสูง 1 เมตรมีแรงดันกว่า 1,000 กิโลต่อตารางเมตร และน้ำสูง 2 เมตรก็ให้คูนเพิ่มขึ้น โครงสร้างผนังของบ้านจะรับแรงดันได้ 100 กิโลกรัมต่อตารางเมตร และพื้นคอนกรีตจะรับได้ 200 ดิโลกรัมต่อตารางเมตรเท่านั้น
คานและเสาของตัวบ้าน
คานและเสาที่มีขนาดเล็กกว่า 20 เซ็นติเมตรจะมีปัญหาตามมาแน่นอน สังเกตว่าเกิดรอยแตกร้าวเป็นทาง หากโชคดีรอยแตกเหล่านั้นจะเป็นแค่ส่วนผิวที่ฉาบไว้ แต่หากโครงสร้างจมน้ำนานเข้าก็จะทำให้เนื้อปูนกะเทาะออกมา เหล็กจะกลายเป็นสนิมอีกด้วย
ฐานราก
ฐานรากที่วางบนดินมีโอกาสที่จะเกิดน้ำกันเซาะใต้ดินฐานราก ซึ่งจะทำให้ทรุดและพังครืนลงมา ส่วนฐานรากบนเสาเข็มสั้นการรับน้ำหนักอาจลดลงเพราะอยู่ในดินที่ปกคลุมด้วยน้ำ โดยเฉพาะฐานรากที่จมน้ำระยะ 1-2 เมตร อาตถูกแรงดันน้ำยกบ้านให้ลอยขึ้นมา ทางป้องกันคือควรใช้เสาเข็มยาวลงไปในชั้นใต้ดินลึกๆ และมีเหล็กเดือยยืดระหว่างเสาเข็มกับฐานรากเอาไว้ด้วยกัน จะทำให้โครงสร้างแข็งแรงได้มากกว่า
ชั้นใต้ดิน
ยิ่งมีชั้นใต้ดินยิ่งมีปัญหาเยอะกว่า เพราะมีข้อจำกัดในการระบายน้ำ หากรีบสูบน้ำออกก็จะดันน้ำที่อยู่ด้านนอกอาจทพให้ผนังกำแพงพังลงมา ทางที่ดีควรรอให้ระดับน้ำด้านนอกลดซะก่อน แล้วค่อยระบายน้ำจากชั้นใต้ดินวันละครึ่งเมตร