หลายคนสงสัยว่าทำไมอุตสาหกรรมเหล็กมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องราคาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในความจริงนั้นเราไม่สามารถกำหนดราคาได้ เพราะความต้องการเหล็กในแต่ละช่วงเวลานั้นไม่เท่ากัน โดยคุณสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ผู้ก่อตั้งมิลล์คอน สตีล ได้เขียนอธิบายเรื่องการขึ้นลงของเหล็กเอาไว้เป็นอย่างดี
เหตุผลที่ราคาเหล็กนั้นชอบขึ้นๆ ลงๆ
เหตุผลที่ราคาเหล็กขึ้นลงคุณสิทธิชัยเล่าว่าเขาขอเริ่มเล่าตั้งแต่จีนเป็นที่แรก เพราเป็นประเทศที่คุมเศรษฐกิจทั้งเอเชีย โดยตอนนี้ยังขยายไปยุโรปและอเมริกาด้วย ยกตัวอย่างได้จากช่วงจัดโอลิมปิกปี 2008 ที่ประเทศจีน เป็นยุคที่จีนเร่งสร้างสนามกีฬา และสร้างเมืองทำเอาเหล็กพุ่งไปราคาสูงมาก แต่เมื่อหลังโอลิมปิกราคาเหล็กก็ตกลงมาอย่างรวดเร็ว อีกเหตุผลที่เกี่ยวข้องกันคือราคาน้ำมันของโลกที่พุ่งสูงขึ้น หากน้ำมันโลกพุ่งสูง การขนส่งก็จะสูงตามไปด้วย
โครงการใหญ่ๆ ของรัฐบาลทั้งในประเทศและต่างประเทศก็มีส่วนสำคัญ เพราะจะทำให้ราคาเหล็กมีความต้องการสูง เมื่อทุกคนต้องการเหล็กราคาก็จะพุ่งสูง รวมไปถึงเศรษฐกิจดีการก่อสร้างก็จะเพิ่มตามไปด้วย
อีกปัจจัยสำคัญคือการนำเข้า โดยอยากให้รัฐเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการนำเข้าเหล็กที่มีมาตรฐาน มอก. ทำให้เป็นการช่วยเหลือทางอ้อม ต้องใช้ระยะเวลานาน ราคาก็เปลี่ยนไปตามระยะเวลาช้าเร็วก็มีผล
มีคำถามว่าเหล็กต้นน้ำและกลางน้ำราคาลดลง ทำไมเหล็กปลายน้ำยังคงแพงอยู่ เพราะประเทศไทยไม่มีเจ้าภาพในอุตสาหกรรมนี้ดีพอ เพราะเหล็กประเทศไทยมีหลายเลเยอร์ โรงงานผ่านเรดเดอร์ โรงงานผ่านยี่ปั๊ว ยี่ปั๊วให้ผู้รับเหมา หลายทอด ทั้งๆที่หากซื้อกับโรงงานนั้นถูกกว่า
ความเข้าใจการเก็งกำไรของวงการอุตสาหกรรมเหล็ก
หลายคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมเหล็กจะโดนคนนอกมองมาแล้วคิดว่าคนที่อยู่ในวงการนี้นั้นเป็นนักเก็งกำไรเหล็ก ซึ่งที่อื่นอาจมีการเก็งกำไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการสต๊อกวัตถุดิบและขายของในช่วงเหล็กราคาสูง แต่มิลล์คอนไม่ได้เป็นแบบนั้น นโยบายของบริษัทไม่ได้มีการเก็งกำไรจากราคา แต่ระบบการทำงานของมิลล์คอนคือการนำวัตถุดิบมาแปรรูป จับคู่ซื้อกับผู้ชาย สร้างออเดอร์และกระจายสินค้าออกไป ขายของตามใบสั่งซื้อ